วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

เรียนโรงเรียนสอนตัดขนสุนัขที่ไหนดีล่ะ???



เรียนโรงเรียนสอนตัดขนสุนัขที่ไหนดีล่ะ???

โรงเรียนสอนตัดขนสุนัขมีหลายแห่งที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือครับ
มีตังค์อยากโก้ อยากหรู ดูดีมีมาตรฐานหน่อยก็ไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาครับ เพราะประเทศนี้ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งและเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ..เรื่องฝีมือการตัดน่ะผมไม่รู้หรอกว่าเค้าดีขนาดไหน แต่เรื่องการยกเอามาตรฐานนู่นนี่มาใช้และความละเอียด ระบบระเบียบของบทเรียนนั้น ถือว่าสุดยอดเป็นขั้นเป็นตอนครับ
แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งสำหรับคนไทยเราน่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย น่าจะอยู่ที่หลักล้านครับ เพราะค่าเรียนสูง แต่ที่สูงกว่าคือค่าครองชีพที่นั่น เพราะหลักสูตรนั้นเรียนไม่ต่ำกว่าหกเดือนแน่นอน...

เอาล่ะ อย่าเพ้อๆ!!
กลับสู่ความเป็นจริง ไม่ต้องมองไปไหนไกลหรอก เอาแค่โรงเรียนในเมืองไทยเราก็พอเนอะ

ในเมืองไทยมีหลายที่ครับที่รับสอนตัดขนหมา จะเรียกว่าโรงเรียนก็ไม่ได้เพราะส่วนมาก จัดสอนกันไปเอง ไม่ได้รับรองจากหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น จะมีอยู่ที่เดียวเท่านั้นที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าโรงเรียน ก็คงจะเป็น starwood  arts of dog grooming school ครับ เพราะสถาบันนี้เป็นสถาบันเดียวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ

สถาบันสอนตัดขนหมาในไทยส่วนมากเริ่มจากช่างที่มีความรู้ เล็งเห็นปัญหาการขาดช่างตัดขนในไทย เห็นช่องทางทางธุรกิจ ก็เลยเปิดการเรียนการสอนหาเงินเข้ากระเป๋ากันแหละครับ.. บางที่ก็ดี บางที่ก็แย่ คงแล้วแต่เวรแต่กรรมของพวกเราแหละครับ ว่าจะเลือกและหาข้อมูลได้ดีขนาดไหน ..เลือกเรียนที่ถูกต้องก็ดีไป เลือกไม่ดีหาข้อมูลไม่ดีก็ซวยไป

บทนี้ผมจึงมาแนะวิธีเลือกสถาบันสอนตัดขนหมากัน  จะได้ไม่ดวงซวยไปเลือกเรียนกับสถาบันแย่ๆกันนะครับ

1.ให้ดูก่อนว่า ใครเป็นเจ้าของสถาบัน  ประวัติและผลงานเป็นเช่นไร และมีใครเป็นผู้อำนวยการสอน.. เก่งจริงไหม? ...เรื่องเหล่านี้สำคัญมากๆ เพราะส่วนมาก เปิดสถาบันสอนกันทั้งๆที่ไม่ได้เก่งด้านนี้เลย เปิดมาหาเงินเอาเปรียบคนอยากเรียนตัดขนอย่างเดียว   (ต้องเรียกว่าเลวและไร้ความรับผิดชอบจริงๆ)..

2.หลักสูตรการเรียนการสอนต้องเป็นระบบแบบแผน มีแผนการเรียนที่ชัดเจน เป็นขั้นตอน มีการประเมินผล และรับรองผล

3.มีสถานที่เรียนเป็นหลักแหล่ง มีสถานที่เรียนทั้งทางภาคปฏิบัติและภาคทฤษฎี

4.มีหมาหุ่นให้คุณมาฝึกตัดอย่างเพียงพอ... ..หมาหุ่นในที่นี้ไม่ใช่หุ่นตุ๊กตาหมานะครับ ผมหมายถึงหมาจริงๆ ที่เราเอามาฝึกตัดกัน  บางสถาบันที่เปิดสอนไม่มีหมาให้เราฝึกตัดกันครับ สองสามวันมีตัวนึง บางวันสามสี่คนช่วยกันตัดตัวนึง รุมกันตัด รุมกันฝึก แบบนี้คงนึกภาพออกนะครับว่าจะเป็นยังไง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรียนไปสิบชาติ ก็ไม่มีทางตัดเป็น.. ย้ำว่าให้ไปเรียนกับสถาบันที่เค้ามีหมาหุ่นมาให้เราฝึกตัดทุกวันครับ วันละตัว ตัวละคน

5.ระยะเวลาการเรียนการสอนสอดคล้องเหมาะสมกับหลักสูตร..เอาเป็นว่าผมแนะนำง่ายๆอย่างนี้ก็แล้ว ถ้าคุณไม่มีพื้นฐานการตัดขนมาเลย สถาบันไหนที่สอนต่ำกว่าสองเดือนไม่ต้องไปเรียน เพราะคุณไปเรียนคุณก็ตัดไม่ได้ตัดไม่เป็นหรอก การตัดขนหมา ได้ทุกทรง ทุกพันธุ์มันต้องใช้เวลามากว่านั้น (ได้ตัดกับตัดได้เลือกเอาเองนะ ว่าคุณจะเอาแบบไหน)

6.มีราคาค่าเรียนที่เหมาะสมเป็นธรรม ข้อนี้ต้องพิจารณากันเอาเองนะครับ ใช้ตรรกะกันเอาเอง เพราะเรื่องพื้นฐานการเงินนั้นแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคลครับ

7.สถาบันมีอุปกรณ์กรูมมิ่งที่ใช้สอนที่เป็นมาตรฐานสากลและมีให้ใช้อย่างเพียงพอกับจำนวนนักเรียน(อุปกรณ์ในที่นี้ไม่รวมอุปกรณ์ส่วนตัวนะครับ อันได้แก่ ปัตตาเลี่ยน และกรรไกร เพราะของพวกนี้เป็นสิ่งที่นักเรียนทุกคนต้องซื้อเอง เก็บไว้เป็นของส่วนตัว เพราะมันเป็นความรับผิดชอบในวิชาชีพ ในเมื่อคุณคิดจะเป็นช่างตัดขนแล้วคุณก็ต้องมีเครื่องมือหาเลี้ยงชีพ ..หากคุณคิดว่าไม่เอาไม่ซื้อ ไปยืมที่เรียน ไปยืมที่ทำงานเอา ก็เอาเป็นว่า ก็อย่ามาเป็นช่างตัดขนเลยนะจ๊ะ)

8.เคล็ดลับอีเล็กน้อยคือ.....ให้คุณสอบถามจากร้านตัดขนชั้นนำทั่วไปว่าหากจะรับช่างตัดขนสักคน เค้ารับที่จบมาและมีประกาศณียบัตรจากสถาบันใดบ้าง หากทางร้านเค้าบอกชื่อสถาบันไหน สถาบันนั้นก็น่าเชื่อถือได้ หากไม่เอ่ยถึงแสดงว่าสถาบันนั้นไม่เป็นที่ยอมรับครับ(เพราะคนในวงการนี้เค้ารู้กันดีว่าจบมาจากไหนแล้วมีคุณภาพบ้าง)

ยังมีอีกหลายข้อที่นำมาเป็นเกณฑ์การเลือกสถาบันสอนตัดขนได้ แต่มันก็อาจจะละเอียดยิบย่อยเกินไป เอาแค่แปดข้อนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะครับ

เอาล่ะตอนนี้พวกคุณก็ออกไปหาข้อมูลได้แล้วว่าสถาบันไหนน่าเรียนกันบ้าง .. ไปเลย Go Go Go !

ติดตามผมทาง facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/Khamnasak

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น